น้ำตกธารโบกขรณี
ที่มาของชื่ออุทยานแห่งชาติโบกขรณี
ชื่อธารโบกขรณี คือ เป็นชื่อของน้ำตกในส่วนที่เป็นที่ตั้งของอุทยานซึ่งแต่เดิมจริงๆตัวน้ำตกเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวบ้านมานานมากหลายสิบปีมีประวัติมายาวนานจนทางกรมอุทยานหรือว่ากรมป่าไม้เดิมมาจัดตั้งอุทยาน คือน้ำตกธารโบกซึ่งไหลออกมาจากภูเขา ดิมทีเดียวเขาเรียกว่าธารอโศกเพราะว่าในบริเวณลำธารจะมีต้นอโศกน้ำ แต่พอต่อมาชื่ออโศกไม่ค่อยสละสลวยเท่าไรก็มีการเพี้ยนเลยกลายเป็นธารโบกด้วยขรณี ก็เหมือนกับว่าน้ำไหลออกจากม่านผาที่โบกด้วยภูเขาหินซึ่งพื้นที่ตรงนี้มันจะเป็นภูเขาหินปูนทั้งนั้นแล้วก็น้ำตกไหลออกจากภูเขาหินปูนและไหลตกลงมาเป็นชั้นลดหลั่นกัน
ประวัติความเป็นมาของอุทยานแห่งชาติโบกขรณีในปี พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เสด็จประพาสจังหวัดกระบี่ แล้วก็จุดตรงน้ำตกธารโบกก็เป็นที่รับเสด็จของท่านทั้ง 2 พระองค์ ซึ่งจะมีรูปภาพตั้งแต่สมัยนั้น มีต้นไม้ที่ท่านได้ทรงปลูกเอาไว้คือต้นศรีตรังหลังจากนั้นมาก็มีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วก็เทศบาลอ่าวลึกเข้ามาดูแล จากเทศบาลเข้ามาดูแลก็กลายเป็นสวนรุกชาติซึ่งดำเนินงานโดยกรมป่าไม้เดิม จากนั้นในปี พ.ศ. 2533
มีการเตรียมประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติขึ้น และได้ประกาศจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2541
อุทยานมีพื้นที่ประมาณ 65,000 ไร่ และจุดที่ประกาศเป็นเขตอุทยานประกอบด้วยพื้นที่ของเขาหินปูน พื้นที่ทางทะเลเกาะพื้นที่จะไม่ติดต่อกันเท่าไร เนื่องจากในตอนเตรียมการประกาศได้ผนวกป่าชายเลนเข้าไปด้วยแต่ในปีที่ประกาศ มีปัญหาเรื่องของป่าชายเลนซึ่งยังมีสัมปทานจึงโดนตัดออกเพราะฉะนั้นพื้นที่จะเว้า ๆ แหว่ง ๆ เป็นวงเล็กวงน้อย จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายประเภทเช่น น้ำตก ภาพสี ภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามคือเกาะห้อง แหล่งท่องเที่ยวปัจจุบันนี้จะมีตรงที่ทำการคือน้ำตกธารโบกเป็นที่แรก ที่สองคือบริเวณเกาะห้อง เกาะห้องจะอยู่ในเขตอำเภอเมืองห่างจากชายฝั่งประมาณ 7 กิโลเมตรซึ่งตรงเกาะห้องค่อนข้างจะมีความสวยงามแล้วก็มีความเป็นพิเศษ และมีชาวต่างชาติลงไปท่องเที่ยวมาก จุดที่ 3 คือถ้ำรอดกับถ้ำผีหัวโต ตรงนี้จะต้องนั่งเรือลงไปในคลองในป่าชายเลนประมาณ 10 นาที จะมีภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ มี 3 แหล่งใหญ่ ๆ
เกาะห้องได้รับรางวัลแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
เมื่อ 4 ปี ที่แล้ว เกาะห้องมีปัญหาขยะจากทะเลมาก คือทุกเกาะในฝั่งอันดามันในช่วงมรสุมจะมีปัญหาขยะทะเล และขยะไปติดตามเกาะต่าง ๆ ทางจังหวัดพาสื่อมวลชนลงไปทำการประชาสัมพันธ์เห็นว่ามีขยะมากไปลงข่าวเป็นตัววิ่งทางช่อง 9 พอตัววิ่งออกทีวีอธิบดีกรมป่าไม้ในขณะนั้น คือ ท่านอธิบดีสมชัย เพียรสถาพรได้สั่งการให้ไปกำจัดขยะให้เรียบร้อยหลังจากนั้นมาจึงใช้นโยบาย
เก็บอย่างเดียวทั้งเก็บตามชายหาดช่วงเวลาน้ำลง ทั้งพายเรือเก็บ พอปีต่อมาก็มีการประเมินเรื่องความสะอาดของชายหาดเรียกว่าโครงการหาดติดดาวของกรมควบคุมมลพิษ มีการประเมินทั้งเรื่องของปริมาณขยะ ขยะริมหาด ขยะในทะเล เรื่องสภาพป่าชายเลนเรื่องของคุณภาพน้ำ ปรากฎว่าในปีแรกที่มีการประเมินได้รับผลการประเมิน 5 ดาว ปีแรกปี พ.ศ. 2549 พอปี พ.ศ. 2550 มีการประเมินต่อเนื่องเราก็ได้รางวัล 5 ดาวเป็นปีที่ 2 ส่วนในปี พ.ศ. 2551 รอผลการประเมินอยู่ และในปี พ.ศ. 2549 เหมือนกันเราก็ได้รับรางวัลรองชนะเลิศการประกวดหน่วยงานภาคสนามดีเด่นของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่5 นครศรีธรรมราช และในปี พ.ศ. 2551
ได้ส่งประกวดของ ททท.ได้รับรางวัลกินรีประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติดีเด่นแชมป์ภาคใต้แต่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องของความเก่งกล้าสามารถของหัวหน้าอุทยานหรือของเจ้าหน้าที่แต่ถือว่าเป็นความพยายามและความตั้งใจจริงในการทำงานของทุกคน รางวัลพวกนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องรักษาไว้ต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติ่ม
https://travel.kapook.com/view177862.html
https://www.chillpainai.com/scoop/9491/
https://travel.mthai.com/blog/112223.html
https://www.sawadee.co.th/krabi/topattractions.html
0 ความคิดเห็น: